หมวดที่ 3
สมาชิกและสมาชิกภาพ

 

 

 

ข้อที่ 5 ประเภทสมาชิก

        สมาชิกของสมาคมการค้าแบ่งออกเป็นสี่ประเภทและมีคุณสมบัติดังนี้

1. สมาชิกสามัญ ได้แก่ นิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจประเภทเกี่ยวกับการรับสร้างบ้าน ซึ่งได้จดทะเบียนและแสดงวัตถุประสงค์ไว้ถูกต้องตามกฎหมาย
2. สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ นิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจในทางการค้า อุตสาหกรรม หรือการเงินอันเกี่ยวเนื่องกับการรับสร้างบ้าน ซึ่งได้จดทะเบียนและแสดงวัตถุประสงค์ไว้ถูกต้องตามกฎหมาย
3. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิหรือเป็นผู้ที่มีอุปการะคุณแก่สมาคม ซึ่งคณะกรรมการมีมติให้เข้าเป็นสมาชิก และผู้นั้นตอบรับคำเชิญ
4. สมาชิกสมทบ ได้แก่ นิติบุคคล/บุคคลธรรมดาที่ประกอบอาชีพ อยู่ในแวดวงธุรกิจรับสร้างบ้าน ช่างก่อสร้าง รวมถึงนิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป
 

ข้อที่ 6 คุณสมบัติของสมาชิก

        สมาชิกของสมาคมการค้านอกจากคุณสมบัติตามข้อ 5 แล้วยังต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้

         1. ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา

   1. เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
   2. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย บุคคลไร้ความสามมารถ หรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
   3. ไม่เคยเป็นบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลให้อัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ หรือความผิดซึ่งกระทำโดยประมาท
   4. ไม่เป็นโรคอันพึงรังเกียจแก่สังคม
   5. เป็นผู้มีฐานะมั่นคงพอสมควรแก่สังคม
   6. เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
 
    2. ในกรณีที่เป็นนิติบุคคล แบ่งเป็น
      (ก) นิติบุคคล ประเภทสมาชิกสามัญ

   1. มีทุนจดทะเบียน ไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท
   2. มีสำนักงานตั้งอยู่อย่างเป็นการถาวร และมีพนักงานปฏิบัติงานอยู่ประจำตามสำนักงานตามวันทำการปกติ ของภาคธุรกิจเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ
   3. มีผลิตภัณฑ์หรือแบบบ้านที่เป็นของตนเอง จำนวนไม่น้อยกว่า 20 แบบ หรือเป็นแบบบ้านที่นิติบุคคลผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นั้น อนุญาติให้ใช้ร่วมกันตามสัญญาผู้ให้สิทธิ์ทางการค้าอย่างถูกต้องตามกฏหมาย
   4. มีบุคลากรในวิชาชีพวิศวกรหรือสถาปนิกผู้ออกแบบ เป็นพนักงานปฏิบัติงานประจำอยู่ในนิติบุคคลนั้นๆ หรือเป็นพนักงานปฏิบัติงานประจำอยู่ในนิติบุคคลผู้เป็นเจ้าของสิทธิ์ทางการค้า ซึ่งยินยอมให้ใช้บุคลากรวิชาชีพวิศวกรและสถาปนิกร่วมกัน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
   5. แสดงงบดุลและงบการเงินประจำปี แก่สมาคมฯ (ยกเว้นสมาชิกจดทะเบียน บริษัทมหาชน)
   6. ไม่เป็นนิติบุคคลล้มละลาย
   7. มีฐานะมั่นคงพอสมควร
   8. มีสมาชิกสามัญอย่างน้อย 3 รายขึ้นไป ให้การรับรองความเป็นสมาชิกสามัญ
 
     (ข) นิติบุคคล ประเภทสมาชิกวิสามัญ
 
   1. มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท
   2. มีสำนักงานตั้งอยู่อย่างเป็นการถาวร และมีพนักงานปฏิบัติงานอยู่ประจำตามสำนักงาน ตามวันทำการปกติของภาคธุรกิจเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ
   3. แสดงงบดุลและงบการเงินประจำปีแก่สมาคมฯ (ยกเว้นสมาชิกจดทะเบียน บริษัทมหาชน)
   4. ไม่เป็นนิติบุคคลล้มละลาย
   5. มีฐานะมั่นคง
 
ให้นำความในข้อ 6 (1) มาใช้บังคับแก่คุณสมบัติของผู้แทนนิติบุคคลที่ได้รับแต่งตั้ง ให้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลที่เป็นสมาชิกตามข้อ 10 ด้วย

ข้อที่ 7 การสมัครเข้าเป็นสมาชิก

       ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือสมาชิกวิสามัญของสมาคมจะต้องยื่นความจำนงต่อเลขาธิการ หรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขาธิการสมาคมตามแบบพิมพ์ที่สมาคมกำหนดไว้ โดยมีสมาชิกสามัญเป็นผู้รับรองอย่างน้อยสามคน

ข้อที่ 8 การพิจารณาคำขอสมัครเข้าเป็นสมาชิก

        ให้เลขาธิการ หรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขาธิการ นำใบสมัครเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการในคราวต่อไปหลังจากที่ได้รับใบสมัคร เมื่อคณะกรรมการมีมติให้รับหรือไม่รับผู้ใดเข้าเป็นสมาชิก ให้เลขาธิการ มีหนังสือแจ้งให้ผู้นั้นทราบภายในเจ็ดวัน นับแต่วันลงมติ

ข้อที่ 9 วันเริ่มสมาชิกภาพ

        สมาชิกภาพเริ่มตั้งแต่วันที่ผู้สมัคร ได้ชำระค่าลงทะเบียนเข้าเป็นสมาชิก และค่าบำรุงประจำปีของสมาคมเรียบร้อยแล้ว

ข้อที่ 10 สมาชิกที่เป็นนิติบุคคล ต้องแต่งตั้งผู้แทนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดากระทำกิจการแทนนิติบุคคลนั้นได้ไม่เกินสองคน

        เพื่อปฏิบัติการในหน้าที่ และใช้สิทธิแทนนิติบุคคลนั้นได้ เพียงเท่าที่สมาชิกบุคคลธรรมดาประเภทเดียวกันนั้นจะพึงมี ในการนี้ ผู้แทนจะมอบหมายให้บุคคลอื่นกระทำการแทนหรือแต่งตั้งตัวแทนช่วงมิได้ บุคคลเดียวกันจะเป็นผู้แทนกระทำแทนสมาชิกเกินหนึ่งรายมิได้

ข้อที่ 11 การขาดจากสมาชิกภาพ

        สมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลง ในกรณีดังต่อไปนี้

1. ตาย หรือสิ้นสภาพนิติบุคคล
2. ขาดคุณสมบัติตามข้อ 5
3. ลาออก โดยยื่นหนังสือลาออกต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการเห็นชอบ
4. ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย
5. ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
6. ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เว้นแต่เป็นความผิดลหุโทษ หรือ ความผิดที่อัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ
หรือความผิดได้กระทำโดยประมาท
7. คณะกรรมการลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียนสมาชิก โดยคะแนนเสียงไม่น้อยความสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดดังต่อไปนี้
1. กระทำการใด ๆ ที่ทำให้สมาคมเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยเจตนา
2. กระทำการละเมิดข้อบังคับโดยเจตนา
3. ไม่ชำระเงินค่าบำรุงประจำปี และได้รับใบเตือนจากเจ้าหน้าที่ครบสามสิบวันแล้ว
 

ข้อที่ 12 ทะเบียนสมาชิก

        ให้นายทะเบียนจัดทำทะเบียนสมาชิกเก็บไว้ ณ สำนักงานของสมาคม โดยอย่างน้อยให้มีรายการดังต่อไปนี้

1. ชื่อและสัญชาติของสมาชิก
2. ชื่อที่ใช้ในการประกอบวิสาหกิจและประเภทของวิสาหกิจ
3. ที่ตั้งสำนักงานของสมาชิก
4. วันที่เข้าเป็นสมาชิก
5. งบดุลและงบการเงินประจำปีของสมาชิก (ยกเว้นสมาชิกจดทะเบียน บริษัทมหาชน)

 
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้