ข้อที่ 5 ประเภทสมาชิก
สมาชิกของสมาคมการค้าแบ่งออกเป็นสี่ประเภทและมีคุณสมบัติดังนี้
1. สมาชิกสามัญ ได้แก่ นิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจประเภทเกี่ยวกับการรับสร้างบ้าน ซึ่งได้จดทะเบียนและแสดงวัตถุประสงค์ไว้ถูกต้องตามกฎหมาย
2. สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ นิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจในทางการค้า อุตสาหกรรม หรือการเงินอันเกี่ยวเนื่องกับการรับสร้างบ้าน ซึ่งได้จดทะเบียนและแสดงวัตถุประสงค์ไว้ถูกต้องตามกฎหมาย
3. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิหรือเป็นผู้ที่มีอุปการะคุณแก่สมาคม ซึ่งคณะกรรมการมีมติให้เข้าเป็นสมาชิก และผู้นั้นตอบรับคำเชิญ
4. สมาชิกสมทบ ได้แก่ นิติบุคคล/บุคคลธรรมดาที่ประกอบอาชีพ อยู่ในแวดวงธุรกิจรับสร้างบ้าน ช่างก่อสร้าง รวมถึงนิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป
ข้อที่ 6 คุณสมบัติของสมาชิก
สมาชิกของสมาคมการค้านอกจากคุณสมบัติตามข้อ 5 แล้วยังต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา
1. เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
2. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย บุคคลไร้ความสามมารถ หรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
3. ไม่เคยเป็นบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลให้อัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ หรือความผิดซึ่งกระทำโดยประมาท
4. ไม่เป็นโรคอันพึงรังเกียจแก่สังคม
5. เป็นผู้มีฐานะมั่นคงพอสมควรแก่สังคม
6. เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
2. ในกรณีที่เป็นนิติบุคคล แบ่งเป็น
(ก) นิติบุคคล ประเภทสมาชิกสามัญ
1. มีทุนจดทะเบียน ไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท
2. มีสำนักงานตั้งอยู่อย่างเป็นการถาวร และมีพนักงานปฏิบัติงานอยู่ประจำตามสำนักงานตามวันทำการปกติ ของภาคธุรกิจเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ
3. มีผลิตภัณฑ์หรือแบบบ้านที่เป็นของตนเอง จำนวนไม่น้อยกว่า 20 แบบ หรือเป็นแบบบ้านที่นิติบุคคลผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นั้น อนุญาติให้ใช้ร่วมกันตามสัญญาผู้ให้สิทธิ์ทางการค้าอย่างถูกต้องตามกฏหมาย
4. มีบุคลากรในวิชาชีพวิศวกรหรือสถาปนิกผู้ออกแบบ เป็นพนักงานปฏิบัติงานประจำอยู่ในนิติบุคคลนั้นๆ หรือเป็นพนักงานปฏิบัติงานประจำอยู่ในนิติบุคคลผู้เป็นเจ้าของสิทธิ์ทางการค้า ซึ่งยินยอมให้ใช้บุคลากรวิชาชีพวิศวกรและสถาปนิกร่วมกัน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
5. แสดงงบดุลและงบการเงินประจำปี แก่สมาคมฯ (ยกเว้นสมาชิกจดทะเบียน บริษัทมหาชน)
6. ไม่เป็นนิติบุคคลล้มละลาย
7. มีฐานะมั่นคงพอสมควร
8. มีสมาชิกสามัญอย่างน้อย 3 รายขึ้นไป ให้การรับรองความเป็นสมาชิกสามัญ
(ข) นิติบุคคล ประเภทสมาชิกวิสามัญ
1. มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท
2. มีสำนักงานตั้งอยู่อย่างเป็นการถาวร และมีพนักงานปฏิบัติงานอยู่ประจำตามสำนักงาน ตามวันทำการปกติของภาคธุรกิจเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ
3. แสดงงบดุลและงบการเงินประจำปีแก่สมาคมฯ (ยกเว้นสมาชิกจดทะเบียน บริษัทมหาชน)
4. ไม่เป็นนิติบุคคลล้มละลาย
5. มีฐานะมั่นคง
ให้นำความในข้อ 6 (1) มาใช้บังคับแก่คุณสมบัติของผู้แทนนิติบุคคลที่ได้รับแต่งตั้ง ให้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลที่เป็นสมาชิกตามข้อ 10 ด้วย
ข้อที่ 7 การสมัครเข้าเป็นสมาชิก
ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือสมาชิกวิสามัญของสมาคมจะต้องยื่นความจำนงต่อเลขาธิการ หรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขาธิการสมาคมตามแบบพิมพ์ที่สมาคมกำหนดไว้ โดยมีสมาชิกสามัญเป็นผู้รับรองอย่างน้อยสามคน
ข้อที่ 8 การพิจารณาคำขอสมัครเข้าเป็นสมาชิก
ให้เลขาธิการ หรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขาธิการ นำใบสมัครเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการในคราวต่อไปหลังจากที่ได้รับใบสมัคร เมื่อคณะกรรมการมีมติให้รับหรือไม่รับผู้ใดเข้าเป็นสมาชิก ให้เลขาธิการ มีหนังสือแจ้งให้ผู้นั้นทราบภายในเจ็ดวัน นับแต่วันลงมติ
ข้อที่ 9 วันเริ่มสมาชิกภาพ
สมาชิกภาพเริ่มตั้งแต่วันที่ผู้สมัคร ได้ชำระค่าลงทะเบียนเข้าเป็นสมาชิก และค่าบำรุงประจำปีของสมาคมเรียบร้อยแล้ว
ข้อที่ 10 สมาชิกที่เป็นนิติบุคคล ต้องแต่งตั้งผู้แทนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดากระทำกิจการแทนนิติบุคคลนั้นได้ไม่เกินสองคน
เพื่อปฏิบัติการในหน้าที่ และใช้สิทธิแทนนิติบุคคลนั้นได้ เพียงเท่าที่สมาชิกบุคคลธรรมดาประเภทเดียวกันนั้นจะพึงมี ในการนี้ ผู้แทนจะมอบหมายให้บุคคลอื่นกระทำการแทนหรือแต่งตั้งตัวแทนช่วงมิได้ บุคคลเดียวกันจะเป็นผู้แทนกระทำแทนสมาชิกเกินหนึ่งรายมิได้
ข้อที่ 11 การขาดจากสมาชิกภาพ
สมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลง ในกรณีดังต่อไปนี้
1. ตาย หรือสิ้นสภาพนิติบุคคล
2. ขาดคุณสมบัติตามข้อ 5
3. ลาออก โดยยื่นหนังสือลาออกต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการเห็นชอบ
4. ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย
5. ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
6. ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เว้นแต่เป็นความผิดลหุโทษ หรือ ความผิดที่อัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ
หรือความผิดได้กระทำโดยประมาท
7. คณะกรรมการลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียนสมาชิก โดยคะแนนเสียงไม่น้อยความสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดดังต่อไปนี้
1. กระทำการใด ๆ ที่ทำให้สมาคมเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยเจตนา
2. กระทำการละเมิดข้อบังคับโดยเจตนา
3. ไม่ชำระเงินค่าบำรุงประจำปี และได้รับใบเตือนจากเจ้าหน้าที่ครบสามสิบวันแล้ว
ข้อที่ 12 ทะเบียนสมาชิก
ให้นายทะเบียนจัดทำทะเบียนสมาชิกเก็บไว้ ณ สำนักงานของสมาคม โดยอย่างน้อยให้มีรายการดังต่อไปนี้
1. ชื่อและสัญชาติของสมาชิก
2. ชื่อที่ใช้ในการประกอบวิสาหกิจและประเภทของวิสาหกิจ
3. ที่ตั้งสำนักงานของสมาชิก
4. วันที่เข้าเป็นสมาชิก
5. งบดุลและงบการเงินประจำปีของสมาชิก (ยกเว้นสมาชิกจดทะเบียน บริษัทมหาชน)