7 เคล็ดลับดี ๆ การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

94 จำนวนผู้เข้าชม  | 

7 เคล็ดลับดี ๆ การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

          เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า หนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์คือที่อยู่อาศัยหรือ “บ้าน” ความต้องการมีบ้านจึงเกิดขึ้นตลอดเวลา คนรุ่นหนึ่งเกิดมา เติบโต ทำงาน เมื่อถึงเวลาที่มีครอบครัวย่อมต้องการมีที่อยู่อาศัย หรือมีบ้านเป็นของตนเอง ความต้องการเช่นนี้จะเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าต่อเนื่องกันไปไม่มีวันจบ สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วการสร้างบ้านหลังหนึ่งนั้น อาจนับเป็นรางวัลแห่งชีวิต เป็นที่รวมความสุขและความอบอุ่นของชีวิตครอบครัว

          “บ้าน” จึงควรต้องมีความมั่นคงแข็งแรง ความสวยงามอย่างยาวนาน และประโยชน์ใช้สอยที่สามารถตอบสนองความต้องการ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจของสมาชิกในครอบครัว


          แน่นอนว่าการสร้างบ้านนั้น เจ้าของบ้านจะต้องว่าจ้างผู้ที่มีความชำนาญในการก่อสร้างมาเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งมีทั้งผู้รับเหมารายย่อย บริษัทรับเหมาก่อสร้างทั่วไป หรือบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ซึ่งมีให้เลือกมากมายนับร้อยรายในปัจจุบัน

           ในบทความนี้ จึงขอนำเสนอเคล็ดลับสำหรับการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ที่จะมาเป็นผู้รับผิดชอบสร้างบ้านหลังใหม่ อาจเป็นแนวทางให้ท่านผู้อ่านได้ใช้พิจารณาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เมื่อต้องการเลือก “บริษัทรับสร้างบ้าน”

 


1. หาข้อมูลเบื้องต้นจากอินเตอร์เน็ต (เว็บไซต์) ควรค้นหารายชื่อบริษัทรับสร้างบ้านมาสัก 20 รายโดยเลือกรายที่มีชื่อเสียงในอันดับต้น ๆ ของประเทศ (ก็ดีนะครับ) เลือกที่มีประสบการณ์มานานพอสมควร มีแบบบ้านที่มีระดับราคาตามงบประมาณตามที่เราคิดไว้ (บวกลบสัก 10-15%) ที่สำคัญถ้ามีสำนักงานตั้งอยู่ใกล้สถานที่ก่อสร้างและเราสะดวกติดต่อด้วยก็ยิ่งดี เพราะระยะเวลาก่อสร้างบ้านนั้นนานหลายเดือนหรืออาจเป็นปี หากผู้ดำเนินการก่อสร้างไม่สามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิด หรือติดต่อไม่สะดวกในเรื่องใด ๆ ที่ต้องตัดสินใจหรือสั่งการไม่ทัน อาจกลายเป็นข้อผิดพลาดขณะทำการก่อสร้างบ้านได้นะครับ 

2. เจาะลึกประวัติความเป็นมาและผลงานบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือนั้น ควรต้องมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง และควรต้องเปิดเผยข้อมูลของบริษัทโดยละเอียด เพื่อเราจะได้รู้ถึงความเป็นมา วิสัยทัศน์ แนวคิดในการดำเนินธุรกิจ ผู้บริหารและทีมงาน ผลงานที่ผ่านมามีใครเคยใช้บริการบ้าง/มีรูปแสดงและคิดเห็นอย่างไร ประเภทที่ไม่กล้าเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม และรูปผู้บริหารว่าเป็นใคร มาจากไหน บอกแค่แนวคิดสั้น ๆ ท่านผู้อ่านก็ลองคิดเอาเองว่าน่าไว้วางใจหรือไม่/เพียงใด รวมถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับมาตรฐานการให้บริการต่าง ๆ อย่างชัดเจน เช่น ระบบก่อสร้าง-คุณสมบัติวัสดุที่ใช้ก่อสร้างบ้าน ขอบเขตการให้บริการ-ค่าใช้จ่าย การชำระเงินค่าก่อสร้าง บริษัทประเภทที่ไม่ระบุหรือไม่มีมาตรฐานใด ๆ กำหนดไว้เลย บอกแค่เพียงว่าสามารถสร้างบ้านได้ตามงบประมาณของลูกค้าที่มี ท่านก็ลองคิดดูว่าผู้ประกอบการรายที่ท่านเลือก ใช่ บริษัทรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐานจริงหรือไม่ ต่อจากนั้นก็เข้าไปดูสถานะการเงินของบริษัท ผ่านทางเว็บไซต์หรือ www.tdr.or.th ประเด็นนี้ก็สำคัญเพราะบางรายจดทะเบียนจัดตั้งกิจการไว้ก็จริง แต่ปรากฏว่าไม่เคยจัดทำบัญชีและรายงานสถานะการเงินกับหน่วยงานของรัฐ แบบนี้อนุมานได้ว่ามีปัญหาเมื่อไร ปิดกิจการเผ่นหนีได้ทันที ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าผ่านสองข้อนี้แล้ว เราสามารถตัดรายที่ไม่ควรเลือกหรือเสี่ยงด้วย ออกไปได้กว่าครึ่งแล้ว

 


3. รู้จักผลิตภัณฑ์ (แบบบ้าน) ขั้นต่อไปก็ลองเลือกแบบบ้านที่ถูกใจมาสักรายละ 4-5 แบบ ที่มีราคาก่อสร้างใกล้เคียงกับงบประมาณของเรา (สูง-ต่ำเฉลี่ย 10-15%) ลองศึกษาแบบแปลน ปรึกษาหารือถึงความต้องการของสมาชิกในครอบครัว ก่อนที่จะค่อย ๆ ตัดออกหรือคัดทิ้งแบบบ้านที่เราและสมาชิกไม่ชอบออกไป ถึงขั้นตอนนี้อาจจะเหลือแบบบ้านไว้พิจารณาประมาณ 20 แบบ จากบริษัทรับสร้างบ้าน 4-6 รายโดยประมาณ แนะนำไว้อย่างหนึ่งว่า ในขั้นตอนนี้ อย่า! ด่วนคัดทิ้งแบบบ้านออก เพียงเพราะว่าราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูง (ยังไม่ถึงขั้นตอนเปรียบเทียบราคาครับ)

 
4. อย่ามองข้ามเงื่อนไขและบริการ หลังจากที่คัดทิ้งบริษัทและแบบบ้านที่ไม่น่าสนใจออกแล้ว คราวนี้ก็ต้องมาพิจารณาเงื่อนไขและบริการ รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นของแต่ละราย ทั้งก่อนเริ่มการก่อสร้าง ระหว่างการก่อสร้าง และหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ ศึกษาดูว่าแต่ละรายให้บริการอะไรบ้าง มีค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายเพิ่มหรือไม่และเท่าไร มีการรับประกันเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร มีสำนักงานใกล้เคียงสถานที่ก่อสร้างหรือไม่ (สำคัญเช่นกันนะครับ)หรือลองดูว่ารายใดมีบริการเสริมการออกแบบบ้านพิเศษ เพื่อให้ตรงใจเราเป็นแบบเอ็กครูซีฟหรือไม่เหมือนใคร หรือมีบริการอื่น ๆ ที่ครอบคลุม เช่น บริการออกแบบและตกแต่งภายใน จัดสวน สระว่ายน้ำ ลิฟท์ ก็ลองพิจารณาดูว่าสอดคล้องกับความต้องการของเราหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้สะดวกต่อการว่าจ้างและบริหารสัญญากับบริษัทรับสร้างบ้านเพียงรายเดียว

 


5. เปรียบเทียบราคา-คุณภาพ ที่ได้เมื่อพิจารณาเงื่อนไขและบริการแล้ว ก็มาเปรียบเทียบราคาค่าก่อสร้าง สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาในขั้นตอนนี้คือ วัสดุที่ใช้ก่อสร้างมาตรฐาน-อุปกรณ์เสริมพิเศษ เช่น อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงอายุ อุปกรณ์ระบายอากาศและป้องกันฝุ่น วัสดุ-อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยพิจารณาดูว่าในราคาที่ใกล้เคียงหรือแตกต่างกันนั้น มีวัสดุ-อุปกรณ์มาตรฐานและเสริมพิเศษที่ใช้และคุณสมบัติแตกต่างกันใช่หรือไม่/อะไรบ้าง ในการพิจารณาราคานั้นระวังตกหลุมพราง “โปรโมชั่น” หรือของแถมและส่วนลดราคา เพราะส่วนลดราคาหรือของแถมมูลค่าสูง ๆ นั้น ย่อมดึงดูดความสนใจและทำให้เรามองข้ามรายละเอียดสำคัญ ๆ ในบางเรื่องไป อาจก่อให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญได้


6. เปรียบเทียบจุดเด่น-จุดด้อย หากบริษัทที่เราเลือกไว้ใช้วัสดุ-อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน ราคาใกล้เคียงกัน บริการใกล้เคียงกัน ก็ต้องลงรายละเอียดว่าบริษัทเหล่านั้น มีจุดเด่น/จุดด้อย แตกต่างกันอย่างไร เช่น ดูจากปริมาณของงานที่ผ่านมา ถ้ามีผลงานก่อสร้างมากมานานต่อเนื่อง ก็แสดงว่าได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากพอ หรืออาจสอบถามจากผู้ที่เคยสร้างกับบริษัทนั้น ๆ มาแล้ว รวมถึงการไปเยี่ยมผลงานระหว่างการก่อสร้างหรือที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็จะทำให้สามารถเปรียบเทียบฝีมือและคุณภาพผลงานของแต่ละบริษัทได้อย่างชัดเจนมากขึ้น


7. ตัดสินใจด้วยเหตุผลจาก 6 ข้อที่กล่าวมา หากได้พิจารณาโดยละเอียดรอบคอบจากทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมาแล้ว ก็จะช่วยให้ท่านสามารถเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ที่ตรงกับความต้องการของท่านได้อย่างมั่นใจว่าจะได้บ้านที่ฝันไว้ในราคาที่สมเหตุสมผลกับบริการที่ได้รับค่อนข้าง..ชัวร์


          เพราะการสร้างบ้านหลังหนึ่งนั้น ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน จึงควรศึกษารายละเอียดในเรื่องของคุณภาพงานก่อสร้าง วัสดุที่ใช้ ทีมงานสถาปนิกและวิศวกรควบคุมงาน การก่อสร้างที่ตรงตามสัญญา ประสบการณ์และความรับผิดชอบ รวมถึงการใส่ใจรักษาสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ แม้จะเป็นองค์กรประเภทแสวงหากำไร แต่ก็ควรต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้