รับสร้างบ้านใต้-อีสาน ทรุดตลาดแข่งดุ สวนทางต้นทุนพุ่งแต่ราคาขายไม่ขยับ พีดีเฮ้าส์จับเทรนด์โลกร้อนชูประหยัดพลังงาน
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานกรรมการบริหาร สายงานธุรกิจรับสร้างบ้านภาคใต้ กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ภาคใต้ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันตกภายหลังเข้าสู่ช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 พบว่าความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อผู้บริโภคยังทรงตัว เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่ภาคใต้และตะวันตกยังคงมีการแข่งขันกันรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อย ขณะที่ปัญหาแรงงานก่อสร้างขาดแคลนและต้นทุนค่าก่อสร้างขยับสูงขึ้น สวนทางกับราคาขายบ้านที่ไม่อาจปรับเพิ่มขึ้นได้จากสถานการณ์แข่งขันที่รุนแรง
นายพิศาลกล่าวว่า ที่ผ่านมาพีดีเฮ้าส์พยายามหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคา เพราะจากประสบการณ์กว่า 30 ปี ทำให้เข้าใจดีว่าราคามักสวนทางกับคุณภาพเสมอ ดังนั้นจึงมุ่งพัฒนาคุณภาพและบริการเป็นสำคัญมาโดยตลอด อาทิ มีการออกแบบด้านวิศวกรรมและนำเทคโนโลยีการผลิตโครงสร้างเสา-คานสำเร็จรูปจากโรงงานที่เรียกว่า Prefabrication & Multi joint Lock System (MLS) มาใช้ก่อสร้างบ้านนานกว่า 15 ปีแล้ว ซึ่งสามารถแก้ปัญหาแรงงานก่อสร้างขาดแคลนและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในปัจจุบัน ทั้งนี้ระบบโครงสร้าง MLS ใช้แรงงานน้อยและก่อสร้างได้แม่นยำตรงตามวิศวกรผู้ออกแบบ ตรวจสอบและควบคุมคุณภาพได้ง่ายทั้งจากที่โรงงานและหน้าไซต์งาน ลดปัญหาความผิดพลาดคลาดเคลื่อนระหว่างก่อสร้าง ลดฝุ่นและเศษวัสดุในบริเวณก่อสร้าง เมื่อเปรียบเทียบกับการก่อสร้างแบบเดิม ๆ ที่ต้องประกอบไม้แบบ ผูกเหล็ก เทคอนกรีต ซึ่งต้องใช้เวลาและแรงงานจำนวนมาก มีขั้นทำงานตอนยุ่งยาก ตรวจสอบยากและโอกาสผิดพลาดสูง กระบวนการก่อสร้างเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้บริโภคต้องการความมั่นใจจากผู้ประกอบการ ซึ่งพีดีเฮ้าส์สามารถแก้ปัญหาและชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง จนผู้บริโภคให้การยอมรับและเชื่อมั่น
“ความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อพีดีเฮ้าส์มาโดยตลอด ทั้งในแง่ของมาตรฐานผลิตภัณฑ์และบริการ ทีมงานและผู้บริหารที่เชี่ยวชาญ แนวคิดและนโยบายดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม อาจนับได้ว่ามีส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างแต้มต่อในการแข่งขัน ทำให้ผู้บริโภคที่ศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี พิจารณาและเลือกตัดสินใจใช้บริการสร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์ เพราะเข้าใจดีว่าคุณภาพและบริการกับราคาที่จ่ายเป็นเหตุเป็นผลกัน ไม่ใช่อย่างที่ผู้ประกอบการรายอื่นที่มุ่งกล่าวโจมตีบ่อย ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันตก ฉะนั้นจึงมั่นใจว่าจะสามารถใช้จุดแข็งของพีดีเฮ้าส์ทั้งประสบการณ์และโนว์ฮาวที่มีแชร์ส่วนแบ่งยอดขายในไตรมาส 2 นี้ได้ตามเป้าไม่ยากนัก”
นายนิรัญ โพธิ์ศรี รองประธานกรรมการบริหาร สายงานธุรกิจรับสร้างบ้านภาคอีสาน กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ภาคอีสาน เผยว่า สถานการณ์และภาวะการแข่งขันของตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่ภาคอีสานไตรมาส 2 ปีนี้มีการแข่งขันราคากันดุเดือดมากขึ้น เนื่องจากความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงไตรมาสก่อน อย่างไรก็ดีภาคอีสานจัดว่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่และมีจำนวนประชากรมากที่สุด ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายและแตกต่างกันไป
“ตลาดรับสร้างบ้านและการแข่งขันในภาคอีสาน โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังขาดมาตรฐานการให้บริการที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น แบบบ้านมาตรฐานที่ตัวเองออกแบบและเป็นเจ้าของลิขสิทธ์ การกำหนดคุณภาพวัสดุที่ใช้เป็นมาตรฐานก่อสร้าง รายละเอียดบริการก่อน-หลังการขายและการรับประกัน ฯลฯ ซึ่งแทบไม่ต่างจากผู้รับเหมาทั่วไป หรืออาจเรียกว่าผู้รับเหมาติดแบรนด์ ด้วยเพราะแบบบ้านก็ลอกเลียนจากผู้ประกอบการรายอื่น วัสดุที่ใช้ก่อสร้างก็บอกแค่ว่าใช้ตามงบประมาณลูกค้า ฯลฯ ซึ่งมองในมุมนี้อาจถือได้ว่าเป็นช่องว่างและโอกาสของพีดีเฮ้าส์ที่จะใช้ความแตกต่างในการแข่งขัน แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็นับเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา และยกระดับภาพลักษณ์ธุรกิจรับสร้างบ้านให้มีความชัดเจนและน่าเชื่อถือของผู้บริโภคได้เช่นกัน”
นายนิรัญกล่าวว่า ในส่วนของพีดีเฮ้าส์นั้น จัดได้ว่าเป็นผู้ประกอบการรับสร้างบ้านมืออาชีพกลุ่ม TOP 5 ของประเทศ เริ่มดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2535 หรือกว่า 30 ปีก่อน โดยได้มีการขยายสาขาออกไปทุกภูมิภาคกว่า 30 สาขา และขยายสาขาเข้ามาในพื้นที่ภาคอีสานแห่งแรก เมื่อปี 2547 หรือ 20 ปีเศษ ปัจจุบันมีสาขาให้บริการในภาคอีสานรวม 8 สาขา ประกอบด้วย สระบุรี อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และนครราชสีมา
สำหรับกลยุทธ์ที่ใช้แข่งขันในตลาดรับสร้างบ้านภาคอีสาน พีดีเฮ้าส์ในฐานะบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพได้มองเห็นโอกาสและช่องว่างตลาด จึงใช้ความแตกต่างและสร้างความชัดเจนในเรื่องมาตรฐานการให้บริการ ได้แก่ 1.งานบริการหลักและบริการเสริม อาทิ สร้างบ้านพร้อมตกแต่งภายในและจัดสวน 2.แบบบ้านที่ออกแบบและเป็นลิขสิทธิ์ของตัวเอง 3.ระบุมาตรฐานคุณภาพวัสดุโดยละเอียดทั้งชนิด-รุ่น-ผู้ผลิต 4. ราคาที่สอดคล้องกับคุณภาพและต้นทุนที่แท้จริง 5. กระบวนการก่อสร้างหรือมาตรฐานคุณภาพที่ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน 6.การรับประกันและบริการหลังการขาย และ .จุดเด่นเรื่องการสร้างบ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น พีดีเฮ้าส์ จึงมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น นายแพทย์ วิศวกร เจ้าของธุรกิจ และชาวต่างชาติ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเลือกใช้การแข่งขันราคา แต่แข่งขันกับตัวเองในแง่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเป็นสำคัญ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย แม้ปัจจุบันผู้บริโภคกลุ่มนี้จะมีขนาดเล็ก แต่มีโอกาสขยายตัวตามเทรนด์โลกเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และมั่นใจว่าไตรมาส 2 นี้จะฝ่าสถานการณ์แข่งขันที่รุนแรงไปได้และสามารถทำยอดขายได้ใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้
มติชนออนไลน์ วันที่ วันที่ 30 พ.ค. 2567